Last updated: 26 พ.ค. 2561 | 3752 จำนวนผู้เข้าชม |
1. สร้างความคุ้นเคยและรู้วิธีการใช้ลู่วิ่ง ที่สำคัญ ควรรู้วิธีการปรับความเร็วและการหยุดฉุกเฉิน ก่อนใช้เครื่อง หรือสอบถามเจ้าหน้าที่หากคุณใช้เครื่องลู่วิ่งในศูนย์ออกกำลังกาย
2. วอร์มร่างกายและยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ ก่อนการใช้ลู่วิ่ง เช่นการเดินและยกเข่าขึ้นสูงสุดเท่าที่ทำได้ เหวี่ยงขาไปด้านหน้าและหลัง และยกขามากขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวขึ้น เพื่อยืดเส้น หมุนแขนไปหน้าและหลัง
3. เริ่มใช้เครื่องโดยจับที่จับและวางเท้าบนสายพาน แปะแม่เหล็ก เซฟตี้กับตัวเครื่องและเสื้อของคุณ และกดปุ่มสตาร์ท เมื่อสายพานเริ่มเคลื่อน ก้าวเท้าและเริ่มเดิน หลังจากทรงตัวได้แล้ว ปล่อยมือออกจากที่จับ
4. เริ่มวอร์มร่างกายด้วยการเดินประมาณ 5 นาที ความเร็วในการเดินเพื่อวอร์มขึ้นอยู่กับ ความต้องการในการออกกำลังกาย หากต้องการออกกำลังกายแบบเดินเร็ว ให้วอร์มด้วยการก้าวช้าๆ หากต้องการออกกำลังกายแบบวิ่ง ให้วอร์มด้วยการก้าวเท้าเร็วขึ้นหรือวิ่งจ้อกกิ้ง หลังจากวอร์มร่างกายเสร็จ เริ่มปรับความเร็วขึ้น ตามลักษณะการออกกำลังกายของคุณ
5. เดินหรือวิ่งด้วยสรีระที่ถูกต้อง หลังตรง ไหล่ตั้ง มองตรงไปข้างหน้า เมื่อปล่อยที่จับ ให้แกว่งแขนตามจังหวะของการก้าวเท้า
6. ดื่มน้ำก่อนและหลังออกกำลังกาย ลู่วิ่งส่วนใหญ่ จะมีที่วางแก้ว ให้เตรียมน้ำใส่ขวดและวางบนลู่วิ่งเพื่อสะดวกต่อการดื่มน้ำ ควรดื่มน้ำ ทุกๆ 10-15 นาที ขณะวิ่ง และควรดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่หากคุณวิ่งเป็นเวลานานกว่า 60 นาที
7. วิ่งด้วยระยะเวลาที่นานพอ เพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่ อ้างอิงจากวิทยาลัยการกีฬาในอเมริกา การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 30 นาที ต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย และ 60 นาที จะช่วยในการลดน้ำหนัก
8. วอร์มร่างกายหลังการวิ่ง คุณควรยืดกล้ามเนื้อหลังการวิ่งเพื่อลดอาการปวดหรือยึด
14 ก.พ. 2564
28 เม.ย 2565
12 ม.ค. 2562
4 ต.ค. 2567